Glossary
ATK
พลังโจมตีของ Resonator
และ J-Ruler เมื่อโจมตีจะสร้างความเสียหายเท่ากับค่า
ATK ที่ระบุ ไปยัง Resonator,
J-Ruler และ ผู้เล่น
DEF
พลังชีวิตของ Resonator
และ J-Ruler ถ้าค่า DEF ของ
Resonator หรือ J-Ruler กลายเป็น 0
หรือต่ำกว่า โดยผลจากการโจมตี หรือ Spell มันจะถูกทำลาย
Addition
แบ่งประเภทได้เป็น “
Addition : Resonator”, “Addition : Ruler or J- Ruler” และ “Addition
: Field” ในเกมนี้
“
Addition : Resonator” หรือ “Addition : Ruler or J- Ruler” ส่งผลไปยังการ์ดที่มันติดอยู่ คุณสามารถติด
Addition ได้มากกว่าหนึ่งใบไปยังเป้าหมายเดียว
“Addition
: Field” ส่งผลเกมโดยตรงตราบเท่าที่มันยังอยู่บนสนาม โดยปกติแล้วคุณจะวางมันบนสนามของตัวเอง
แต่มีบางใบที่สามารถให้คุณวางมันบนสนามของฝ่ายตรงข้ามได้ คุณไม่สามารถมี “Addition
: Field” ที่ชื่อซ้ำกันในสนามได้
Will
พลังเวทมนต์ในเกมนี้ คุณต้องใช้พลังเวทมนต์
– Energy - ที่จำเพาะเจาะจงในการเรียก Resonator หรือร่าย Spell เมื่อจบเทิร์น Will ทั้งหมดที่ไม่ได้ใช้จะถูกลบล้างไป เช่นเดียวกัน ถ้าคุณผลิต Will ก่อนเข้า Recovery Phase และมีคงเหลืออยู่
มันจะหายไปเช่นกันเมื่อเริ่ม Recovery Phase
Reveal
เปิดแสดงการ์ดให้ผู้เล่นทุกคนเห็นรวมถึงฝ่ายตรงข้าม
Cost
Will หรือ
เงื่อนไขที่ต้องการในการร่ายการ์ด
Activation
Cost
Cost สำหรับใช้
[Activate] ถ้าคุณไม่สามารถจ่าย Activation Cost ได้ คุณจะไม่สามารถใช้ [Activate] นั้นได้
Attribute
Cost
ส่วนหนึ่งของ Cost ที่ต้องจ่ายโดยคุณจำเป็นต้องจ่าย Will ที่มี Attribution
ที่ระบุไว้ คุณสามารถเห็นมันได้บนการ์ดโดยสังเกตจากสัญลักษณ์ Energy
ในวงกลมด้านซ้ายบน
Free
Cost
ส่วนหนึ่งของ Cost ที่ต้องจ่ายโดยจ่ายเป็น Will ที่มี Attribution
ใดๆก็ได้ คุณสามารถเห็นมันได้บนการ์ดโดยสังเกตจากตัวเลขถัดจากวงกลมของ
Attribute Cost
Controller
การ์ดแต่ละใบจะมีผู้ควบคุม
ผู้ที่สามารถใช้การ์ดนั้นและความสามารถของมันได้ผู้เดียว
Control
คุณควบคุม Resnonator
และ Addition ทั้งหมดในสนามของคุณ
ถ้าการ์ดระบุให้คุณได้ควบคุมการ์ดใบอื่น ให้นำการ์ดนั้นมาอยู่ในสนามของคุณ
Symbol
Skill
J-Ruler และ Resonator
อาจจะมี Symbol Skill ซึ่งประกอบไปด้วย [Flying],
[Pierce], [Explode], [Target Attack] และ [First Strike]
[Flying]
Symbol Skill สำหรับ Resonator
และ J-Ruler ที่จำเป็นใน Battle Phase
· Resonator
และ J-Ruler ที่มี [Flying] จะถูกบลอคได้จาก Resonator
และ J-Ruler ที่มี [Flying] เหมือนกันเท่านั้น
· Resonator
และ J-Ruler ที่มี [Flying] สามารถบลอค Resonator และ J-Ruler ที่มี [Flying] ได้
· Resonator
และ J-Ruler ที่มี [Flying] สามารถบลอค Resonator และ J-Ruler ที่ไม่มี [Flying] ได้
· Resonator
และ J-Ruler ที่อยู่ในสภาพ Rest ที่มี [Flying] สามารถถูกโจมตีจาก Resonator และ J-Ruler ที่ไม่มี [Flying] ได้
[Pierce]
Symbol Skill สำหรับ Resonator
และ J-Ruler มันจะทำความเสียหายให้กับผู้เล่นฝ่ายป้องกันเท่ากับจำนวนความเสียหายที่เหลือจากการหักลบกับ
DEF ของ Resonator หรือ J-Ruler ที่ทำการป้องกัน
· ถ้ามันสามารถทำลาย
Resonator
หรือ J-Ruler ในสนามของฝ่ายตรงข้ามได้
มันจะสร้างความเสียหายจากการต่อสู้ให้กับฝ่ายตรงข้ามเท่ากับจำนวนความเสียหายที่เหลือจากการหักลบกับ
DEF ของ Resonator หรือ J-Ruler ที่ทำการป้องกัน
· ส่งผลเฉพาะเมื่อทำการโจมตีเท่านั้น
ไม่ส่งผลเมื่อทำการป้องกัน
· ถ้ามันถูกทำลายในการต่อสู้นั้น
มันยังคงสร้างความเสียหายจากการต่อสู้ให้กับฝ่ายตรงข้ามเท่ากับจำนวนความเสียหายที่เหลือจากการหักลบกับ
DEF
ของ Resonator หรือ J-Ruler ที่ทำการป้องกัน
· ถ้า
Resonator
หรือ J-Ruler ที่ถูกโจมตี
โดนทำลายหรือนำออกจากสนามก่อนที่จะคิดค่าความเสียหายจากการต่อสู้
ความเสียหายทั้งหมดจาก Resonator หรือ J-Ruler ที่มี [Pierce] จะทำต่อฝ่ายตรงข้ามโดยตรง
· ถึงแม้
Resonator
หรือ J-Ruler
ที่ถูกโจมตีจะมีความสามารถที่ระบุว่า “ไม่สามารถถูกสร้างความเสียหายได้”
ก็ยังคงสร้างความเสียหายจากการต่อสู้ให้กับฝ่ายตรงข้ามเท่ากับจำนวนความเสียหายที่เหลือจากการหักลบกับ
DEF ของ Resonator หรือ J-Ruler ที่ทำการป้องกัน
· ถ้า
Resonator
หรือ J-Ruler ที่มี [Pierce] โจมตี ใส่ Resonator หรือ J-Ruler และถูกบลอคโดย Resonator หรือ J-Ruler ใบอื่น ความเสียหายจะคิดหักลบจาก DEF ของ Resonator หรือ J-Ruler ที่ทำการป้องกัน
และทำใส่ฝ่ายตรงข้ามโดยตรง ไม่ทำกับ Resonator หรือ J-Ruler ที่ถูกโจมตีในตอนแรก
[Explode]
Symbol Skill สำหรับ Resonator
และ J-Ruler ที่ส่งผลใน Battle Phase โดยจะทำลายตัวมันเองและ Resonator ที่ต่อสู้ด้วย
· ถ้ามันสร้างความเสียหายจากการต่อสู้ให้กับ
Resonator
ใบอื่นได้ ให้ทำลาย Resonator ทั้งสองใบใน Battle
Resolution Step
· จะส่งผลเมื่อมีการสร้างความเสียหายจากการต่อสู้อย่างน้อยหนึ่งหน่วยขึ้นไป
[Target
Attack]
Symbol Skill สำหรับ Resonator และ J-Ruler
ที่สามารถให้ทำการโจมตีใส่Resonator และ J-Ruler
ที่อยู่ในสภาพ Recover ได้
· เมื่อ
Resonator
และ J-Ruler ที่มี [Target Attack] ทำการโจมตี มันยังคงสามารถถูกบลอคด้วย Resonator หรือ
J-Ruler ใบอื่นได้
· Resonator
และ J-Ruler ที่มี [Target Attack] สามารถโจมตี Resonator หรือ J-Ruler ที่อยู่ในสภาพ Recover ที่มี [Flying] ได้
· ถ้า
Resonator
ของผู้เล่นถูกโจมตีโดย Resonator หรือ J-Ruler
ที่มี [Target Attack] และผู้เล่นไม่บลอคด้วย Resonator
หรือ J-Ruler ใบอื่น ให้นำ Resonator ที่ถูกโจมตีนั้นเข้าสู่สภาพ Rest
[First
Strike]
Symbol Skill ที่จะสร้างความเสียหายก่อนที่จะถูกสร้างความเสียหายกลับใน
Battle Phase
· Resonator
และ J-Ruler ที่มี [First Strike] จะสร้างความเสียหายก่อน Resonator หรือ J-Ruler ที่ไม่มี [First Strike]
[Swiftness]
Symbol Skill ที่จะทำให้ Resonator
และ J-Ruler สามารถสั่งโจมตีหรือใช้ความสามารถที่ต้อง
Rest ได้ในเทิร์นที่เข้ามาในสนาม
· Resonator
และ J-Ruler ที่มีหรือได้รับ [Swiftness]
จะไม่สามารถสั่งโจมตีในเทิร์นของฝ่ายตรงข้ามได้ แต่สามารถ Rest
เพื่อใช้ความสามารถตามที่ระบุในการ์ดนั้นได้ตามปกติ
Judgment
นำ J-Ruler เข้าสู่สนามของคุณโดยต้องทำการจ่าย Cost [J-Activate] ใน Main Phase ของคุณ , J-Ruler สามารถต่อสู้ได้เช่นเดียวกับ Resonator แต่มันไม่สามารถโจมตี หรือใช้ [Activate] ที่ต้องการเข้าสู่สภาพ Rest ในเทิร์นที่มันทำการ Judgment
ได้
Race
ชาติกำเนิดของ Resonator,
อย่างเช่น Knight of the Round Table, Dragon หรือ
Mermaid ซึ่งจะระบุไว้เหนือ Text หลังคำว่า
(Resonator:) การ์ดบางใบจะส่งผลกับการ์ดที่มี Race ที่ระบุ
Summon
คือการนำ Resonator
จากมือของคุณเข้าสู่สนามโดยการจ่าย Cost ของมัน
Spell
การ์ดเวทมนต์ส่งผลโดยการจ่าย
Cost เราสามารถแบ่ง Spell ได้เป็นสามประเภท
“Spell:Chant”, “Spell:Chant-Instant” และ “Spell:Chant-Standby”
Chant
คุณสามารถร่ายมันได้ใน
Main Phase ของตัวเองเท่านั้น มันจะส่งผลหลังจากที่คุณทำการร่าย
และให้นำลง Graveyard หลังจากนั้น คุณไม่สามารถร่าย Spell:Chant
แบบแทรกแซงได้
Chant-Instant
คุณสามารถร่ายมันเมื่อใดก็ได้ แม้จะเป็นเทิร์นของฝ่ายตรงข้ามก็ตาม
คุณสามารถร่ายมันแบบแทรกแซงได้
Chant-Standby
คุณใช้มันจาก Chant-Standby
Area คุณสามารถนำมันมาวางในโซนนี้จากมือแบบคว่ำหน้าโดยการจ่าย 2
Will ที่มี Attribution ใดๆก็ได้
คุณยังไม่สามารถใช้มันในเทิร์นที่ทำการวางเข้าสู่
Chant-Standby
Area ได้ แต่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เทิร์นถัดไปเป็นต้นไป
คุณสามารถให้มันทำงานได้เมื่อเงื่อนไขของ
[Trigger] ตรงตามที่ระบุและมี Magic Stone ในสภาพ Recover พอที่จะจ่าย Will ตามค่า Cost แต่คุณไม่ต้องทำให้ Magic Stone เปลี่ยนเป็นสภาพ Rest ในการจ่ายค่า Cost นี้
Battle
การต่อสู้ของ Resonator
ใน Battle Phase
Battle
Damage
ความเสียหายที่ถูกสร้างขึ้นจาก
Resonator หรือ J-Ruler ในการต่อสู้
โดยคิดจาก ATK และผลจาก Addition หรือ Spell
เรียกว่า”ความเสียหายจากการต่อสู้”
ความเสียหายใดๆที่ถูกสร้างขึ้นจาก
Spell
หรือความสามารถอื่นๆ ใน Battle Phase ไม่นับเป็นความเสียหายจากการต่อสู้
แต่ความเสียหายจาก [Pierce] นับเป็นความเสียหายจากการต่อสู้
Attribution
ใน Force of Will มีทั้งหมด 5 Attribution : Light [icon], Fire [icon], Water
[icon], Wind [icon] และ Dark [icon] ถ้ามีสิ่งใดไม่ได้เป็น
Attribution ใดๆจากทั้ง 5 นี้
ให้ถือว่าไม่มี Attribution [icon]
Attribution
ของการ์ดจะระบุไว้โดยสัญลักษณ์ที่มุมขวาล่าง
Direct
Attack
คือการสร้างความเสียหายจากการต่อสู้โดย Resonator หรือ
J-Ruler ไปยังผู้เล่นโดยตรง Resonator หรือ
J-Ruler ทำการโจมตีไปที่ฝ่ายตรงข้ามและไม่ถูกบลอค เรียกว่า Direct
Attack
Ability
Ruler, J-Ruler, Resonator และ Addition อาจจะมี Ability หรือเรียกว่า
ความสามารถ
Ability คือ [Enter],
[Continuous], [Activate], [J-Activate], [Trigger], [Break] และอื่นๆตามแต่จะระบุไว้
ความสามารถไม่ใช่ Spell และถูก Cancel ได้จากผลที่ระบุไว้เท่านั้น
เช่น Cancel Ability
[Enter]
ความสามารถที่ส่งผลเมื่อ
Resonator หรือ J-Ruler ถูก Summon
แตกต่างจาก
[J-Activate]
ความสามารถ [Enter] จะไม่ทำงาน เมื่อ Resonator
เข้าสู่สนามด้วยวิธีอื่นๆนอกจากการ Summon (เช่น
เข้าสู่สนามจาก Lifebreak หรือ Graveyard, เข้ามาจาก Ability เป็นต้น)
[Continuous]
ความสามารถที่ส่งผลตราบเท่าที่ยังอยู่ในสนาม
มีบางความสามารถที่ต้องการเงื่อนไขพิเศษในการทำงาน
[Activate]
ความสามารถที่ทำงานโดยการจ่าย
Cost ความสามารถนี้สามารถใช้ได้หลายครั้งถ้าคุณมี
Will พอที่จะจ่าย Cost
[J-Activate]
ความสามารถของ Ruler เมื่อคุณใช้ความสามารถนี้ ให้พลิกด้านการ์ด Ruler
และวางมันเข้าสู่สนามในสภาพ J-Ruler
ความสามารถ [Enter]
ที่ระบุบน J-Ruler ทำงาน คุณสามารถทำการ Judgment
ใน Main Phase ของตัวเองเท่านั้น Ruler
จำเป็นต้องอยู่ในสภาพ Recover เมื่อประกาศทำการ
Judgment และเมื่อทำสำเร็จ
[Trigger]
Cost และเงื่อนไขในการทำให้ Spell:Chant-Standby ใน Chant-Standby Area
ของคุณทำงาน จะมีหลากหลาย เช่น “เมื่อใดก็ได้”, “ทิ้งการ์ด 1 ใบ”, “เมื่อเข้าสู่ Battle
Phase” หรือ “เมื่อฝ่ายตรงข้าม Summon Resonator” เป็นต้น คุณจำเป็นต้องมีเงื่อนไขต่างๆครบถึงจะเรียกใช้ความสามารถนี้ได้
[Break]
ส่งผลเมื่อมันถูกใช้งานเป็น
Lifebreak ส่วนใหญ่แล้วจะส่งผลโดยไม่มีเงื่อนไขหรือ Cost
ใดๆ แต่บางส่วนก็มี
ความสามารถ [Break]
ไม่สามารถถูกเรียกใช้จากโซนอื่นที่ไม่ใช่ Lifebreak Area ได้
[Rest
icon]
สัญลักษณ์นี้หมายถึง
“ทำให้การ์ดใบนี้อยู่ในสภาพ Rest” (หมุนมันตะแคงข้าง)
ส่วนมากจะถูกใช้เป็น Cost ของ [Activate] และจำเป็นต้องทำเพื่อให้ความสามารถทำงาน
Destroy
หรือที่เรียกได้ว่า “ทำลาย”
คือการนำ Resonator ไปยัง Graveyard มันเกิดโดยผลจากการต่อสู้
หรือ ผลจาก Spell
สำหรับ
J-Ruler
ที่ถูกทำลายจะไม่ถูกนำไปยัง Graveyard แต่จะไปที่
Ruler Area ในสภาพ J-Ruler แทนและสูญเสียความสามารถทั้งหมดด้วย
(แต่ยังคง Rest เพื่อ Call เรียก Magic
Stone ได้)
Banish
คือการนำตัวมันเองไปยัง Graveyard
โดยมากแล้วจะเป็น Cost ของ Spell และ Ability การ Banish ไม่ใช่การทำลาย
ดังนั้นจะไม่ถูก Cancel โดยเอฟเฟคที่ส่งผลต่อการทำลายได้
Player
หรือที่เรียกว่า
”ผู้เล่น” คือตัวคุณเอง หรือฝ่ายตรงข้าม
ถ้า Spell
หรือ Ability ระบุว่า ฝ่ายตรงข้าม
นั่นไม่ได้หมายถึงตัวคุณ
Cancel
คือการยกเลิกบางสิ่งบางอย่างโดยการทำให้มันไม่เกิดขึ้น
และนำการ์ดที่ถูก Cancel ไปยัง Graveyard
Magic
Stone
คือการ์ดที่ใช้สร้าง Will ในการสร้าง Will ให้ทำ
Magic Stone ที่อยู่ในสภาพ Recover ไปอยู่ในสภาพ
Rest มันจะสร้าง Will ตามที่ระบุไว้ใน Text
ของมัน
คุณไม่สามารถทำให้
Magic
Stone อยู่ในสภาพ Rest เพื่อสร้าง Will
โดยไม่ใช้งาน คุณต้องนำมันไปจ่ายให้กับบางอย่าง
Lifebreak
ทำการเรียกใช้การ์ดใน Lifebreak
Area ของคุณ ถ้ามันมีความสามารถ [Break] คุณสามารถให้มันทำงานได้
แต่ถ้ามันไม่มีมันจะไปยัง Graveyard ทันที
คุณสามารถมีการ์ดใน Lifebreak Area ได้สูงสุด 4 ใบ
Recover
คือสภาพที่การ์ดตั้งหัวตรง
และสามารถใช้งานได้ การทำให้การ์ดอยู่ในสภาพนี้ คือการจับการ์ดที่อยู่ในสภาพ Rest
(ตะแคงข้าง) ตั้งหัวตรงขึ้น การ์ดจำเป็นต้องอยู่ในสภาพ Recover
หากคุณต้องการให้มันโจมตี, บลอค หรือจ่ายค่า [Rest icon]
Cost
การส่งผลของการ์ด
เมื่อคุณให้การ์ดส่งผล
ให้ทำตามที่ระบุไว้บนการ์ดเท่าที่เป็นไปได้
ถ้าการ์ดไม่ได้ระบุไว้ว่า
“อาจจะ” คุณจำเป็นต้องทำตามที่เขียนไว้ให้มากที่สุดที่เป็นไปได้
ถ้าคุณไม่สามารถจะทำบางสิ่งตามที่เขียนไว้ได้
ก็ไม่จำเป็นต้องทำ
เลือกเป้าหมาย
ถ้าไม่มีการระบุเป้าเจาะจงไว้
คุณต้องเลือกการ์ดใบใดใบหนึ่งในสนามใดก็ได้เป็นเป้าหมาย
ถ้าไม่มีระบุสนามไว้
ให้หมายถึงสนามของคุณ
Mulligan
คือการที่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนการ์ดบนมือเริ่มต้นได้ 1 ครั้ง
โดยทำการเลือกว่าจะเปลี่ยนการ์ดบนมือกี่ใบ
นำการ์ดที่จะทำการเปลี่ยนไปไว้ใต้กองหลัก
จากนั้นจั่วการ์ดจากกองหลักตามจำนวนการ์ดที่ทำการเปลี่ยน
Last-In-First-Out
คือการลำดับการทำงานของการ์ดหรือความสามารถที่สามารถใช้แทรกแซงการร่ายหรือทำงานของการ์ดใบอื่นได้
โดยเมื่อเกิดการแทรกแซงกันขึ้น
การ์ดหรือความสามารถที่แทรกแซงเป็นลำดับหลังสุดจะส่งผลก่อนการ์ดที่ร่ายหรือทำงานก่อนหน้า
คล้ายกับการ์ดที่ถูกร่ายหรือเรียกใช้งานก่อนจะถูกวางด้านล่างและซ้อนทับด้วยการ์ดที่แทรกแซงขึ้นไปเรื่อยๆ
และการ์ดใบที่อยู่บนสุดจะส่งผลก่อน เรียงตามลำดับลงไปเรื่อยๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น